ใช้กุญแจ Smart Key หากโดนปล้นชิงรถ จะเกิดอะไรขึ้น?

ใช้กุญแจ Smart keyless หากโดนปล้นชิงรถ จะเกิดอะไรขึ้น?

     รถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบันล้วนแต่ใช้ระบบกุญแจอัจฉริยะ หรือ Smart Keyless กันแทบทั้งนั้น แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่าหากประสบเหตุถูกโจรจี้ชิงรถแบบซึ่งหน้าจะเกิดอะไรขึ้น? โตออโต้คาร์ จะพาไปหาคำตอบกันครับ

ใช้กุญแจ Smart keyless หากโดนปล้นชิงรถ จะเกิดอะไรขึ้น?
ใช้กุญแจ smart keyless หากโดนปล้นชิงรถ จะเกิดอะไรขึ้น? โตออโต้คาร์

หลักการทำงานของกุญแจ Smart Key คืออะไร?

     กุญแจแบบ Smart Key ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ที่วางจำหน่ายจริงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1998 โดยหลักการทำงาน คือ กุญแจจะส่งคลื่นวิทยุไปยังเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้กับตัวรถ เจ้าของรถจึงสามารถปลดล็อกประตูโดยไม่จำเป็นต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋า เพียงแค่กดปุ่มหรือสัมผัสเซ็นเซอร์บนมือเปิดประตูในรัศมีประมาณ 80 เซนติเมตร (อาจมากหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น) ตัวรถก็จะปลดล็อกประตูให้โดยอัตโนมัติ

     และเมื่อผู้ขับขี่เข้าไปนั่งอยู่ภายในรถ ก็จะมีเซ็นเซอร์จับสัญญาณอยู่ภายในรถอีกชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบว่ากุญแจอยู่ภายในห้องโดยสารเรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่ก็เพียงแค่เหยียบเบรกและกดปุ่ม Push Start หนึ่งครั้ง จากนั้นกล่อง Immobilizer ก็จะตรวจสอบว่าเป็นกุญแจของรถคันนั้นจริงๆ และยอมให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดในที่สุด โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องนำกุญแจรถออกจากกระเป๋าเลย

กรณีถูกโจรจี้ชิงรถซึ่งหน้าจะเกิดอะไรขึ้น?

     หากว่าโชคร้ายเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ขณะที่คุณกำลังจอดรถเพื่อลงไปซื้อกับข้าว แต่จู่ๆ เกิดถูกโจรจี้บังคับให้คุณลงจากรถ และขับออกไปได้เป็นผลสำเร็จนั้น เครื่องยนต์จะยังคงติดอย่างต่อเนื่องแม้ว่าคุณ (ที่พกกุญแจไว้กับตัว) จะลงมาจากรถคันนั้นแล้วก็ตาม โดยที่รถจะยังคงสามารถขับได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการดับเครื่องยนต์ จากนั้นก็จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีกเลย เนื่องจากกุญแจไม่ได้อยู่ภายในรถแล้วนั่นเอง

     แม้ว่าจะฟังดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย แต่หากเทียบกับกุญแจระบบเก่าที่เป็นแบบบิดสตาร์ทแล้วล่ะก็ กรณีประสบเหตุการณ์แบบเดียวกัน ตัวโจรเองก็จะได้ทั้งรถทั้งกุญแจควบคู่กันไปเลยทันที (เนื่องจากเหตุการณ์จี้ชิงเกิดขึ้นขณะที่เครื่องยนต์กำลังติดอยู่) จึงสามารถดับเครื่องยนต์และสตาร์ทใหม่ได้ทุกเมื่อเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของรถเสียเอง แตกต่างจากระบบกุญแจอัจฉริยะ ที่ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีกหากไม่พบกุญแจอยู่ภายในรถ

     ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จี้ชิงรถคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และคงมีโอกาสยากมากที่จะเกิดขึ้นกับคุณหรือคนใกล้ตัว แต่หากทราบหลักการทำงานเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก: sanook.com

ช่องทางการติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

? โทรเลย : 083-7777747 หรือ 083-7777757

? Line@ : @toautocar

? เว็ปไซต์ : toautocar

⚪️ IG : toautocar_usedcar

? Youtube : โต ออโต้คาร์

⚫ Tiktok : โต ออโต้คาร์

? Maps : https://g.page/toautocargroup?share